เที่ยวดี มีระดับ มาตรฐานรีเจนซี่ อิสตันบูล - อิสเมียร์ - คูชาดาซึ - ปามุคคาเล่ - คอนย่า - คัปปาโดเกีย - ไคเซรี่
โปรแกรมการท่องเที่ยว 8 วัน ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
กับ "PURELY TURKEY WITH TURKISH AIRLINES"
ที่สุดของความประทับใจ ฉลองครบรอบ 20 ปี บินตรง กรุงเทพ - อิสตันบูล |
กำหนดเดินทางปี 2552 1) 24-31 มกราคม 2) 4-11 กุมภาพันธ์ 3) 27 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 4) 5-12 มีนาคม 5) 5-12 มีนาคม |
รายละเอียดการเดินทาง |
1. วันแรก | กรุงเทพฯ - (อิสตันบูล) |
2100 | พบกันที่เคาน์เตอร์เชคอิน U (Row U) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสาร สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ | |
2345 | ออกเดินทางไปยังนครอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK061 (บินตรง) พร้อมสัมผัสกับสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของพนักงานต้อนรับสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส |
2. วันที่สอง | อิสตันบูล - อิสเมียร์ - คูซาดาซึ |
0530 |
เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล เดินทางต่อไปยังเมืองอิสเมียร์ โดยเที่ยวบิน TK 310 เดินทางถึงเมืองอิสเมียร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเซลจูค (SELCUK) โดยรถโค้ช |
|
1220 | รับประทานอาหารเที่ยง | |
บ่าย | นำท่านเข้าชม HOUSE OF VERGIN MARY บ้านของพระแม่มารีซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ จากนั้นนำท่านชมเมือง เอฟฟิซุส (CITY OF EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (IONIA) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอฟฟิซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมันและ นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ เช่น คอนเสิร์ตของฮูลิโอ อิงเกลเซียส จากนั้นนำท่านชมห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือปราณีต | |
เย็น | นำท่านเข้าชมโบสถ์ของนักบุญเซนต์ จอห์น (BACILIC OF ST.JOHN) สาวกของพระเยซูคริสต์ที่ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาไปทั่วดินแดนอนาโตเลียหรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน | |
1900 |
รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก |
3. วันที่สาม | คูซาดาซึ - ปามุคคาเล่ - นครโบราณฮีเยราโพลิส - ปราสาทปุยฝ้าย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม | |
0800 | ออกเดินทางไปยังเมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดิน ผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีก ก่อนที่จะไหลลงสู่หน้าผา ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาวซึ่งมีความงดงามมาก นำท่านชม นครโบราณฮีเยราโพลิส ซึ่งยังคงมีสถานที่สำคัญหลงเหลืออยู่คือ โรงละครแอมฟิเทียเตอร์ซึ่งสร้างในสมัยจักรพรรดิเฮเดรียนในคริสต์ศตวรรษที่ 2 โดยโรงละครแห่งนี้ถูกดัดแปลงในคริสต์ศตวรรษที่ 3 สมัยพระเจ้าเซปติมิอุส เซเวรุสให้มีลักษณะเหมือนในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าสามารถจุคนได้กว่า 10,000 คนในอดีตกาล นำท่านชมวิหารอะพอลโลซึ่งสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 3 ซึ่งยังคงมีซากหลงเหลืออยู่บ้าง จากนั้นนำท่านชมนีโครโพลิสหรือสุสานโรมันแบบโบราณ ทางเข้ามีการสร้างประตูโดมินีเชียนคาดว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 3 | |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง | |
บ่าย |
นำท่านชมปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาเล่) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน ที่ซึ่งในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนดังกล่าวสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมือง ฮีเยราโพลิส ล้อมรอบ ท่านจะได้สัมผัสเมืองโบราณอีกแห่งซึ่งสร้างขึ้นในสมัยโรมัน |
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก |
|
หมายเหตุ | โรงแรมมีบริการสระว่ายน้ำซึ่งเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ หากท่านใดต้องการแช่น้ำแร่ ให้เตรียมชุดว่ายน้ำ ไปด้วย |
4. วันที่สี่ | ปามุคคาเล่ - คอนย่า - คัปปาโดเกีย - พิพิธภัณฑ์เมฟลานา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม | |
นำท่านเดินทางสู่เมือง คอนย่า (KONYA) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071 - 1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทาง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคับปาโดเกีย (CAPPADOCIA) ท่านจะได้ชมวิถีชีวิตตามชนบทและทัศนียภาพที่สวยงามของทุ่งหญ้าสลับกับภูเขา รวมถึงท้องฟ้าสีสดใสสองข้างทาง | ||
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง | |
บ่าย | นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (MEVLANA MUSEUM) หรือสำนักลมวน เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดย เมฟลานา เจลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่คัปปาโดเกีย ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก ระหว่างทางนำท่านชม “คาราวานสไลน์” ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน | |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก |
5. วันที่ห้า | คัปปาโดเกีย - นครใต้ดิน - เกอเรเม - ไคเซรี่ - อิสตันบูล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม | |
นำท่านชมเมืองคัปปาโดเกีย ซึ่งได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่ เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆที่งดงาม หลังจากนั้นนำท่านชมนครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY OF DERINKUYU OR KAYMAKLI) ซึ่งเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึกพร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศและสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ | ||
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร | |
บ่าย | ออกเดินทางสู่เมืองเกอเรเม (GOREME) นำท่านเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ จากนั้นนำท่านแวะชมโรงงานทอพรม โรงงานเซรามิค และโรงงานเครื่องหนังชั้นนำของประเทศตุรกี พร้อมเพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อของตามอัธยาศัย | |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองไคเซรี่ |
|
2040 |
ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 265 |
|
2205 |
ถึงสนามบินอิสตันบูล |
6. วันที่หก | อิสตันบูล - พระราชวังทอปกาปึ - ฮิปโปโดม - สุหร่าสีน้ำเงิน - โบสถ์เซนต์โซเฟีย - สไปซ์ มาร์เกต - ระบำหน้าท้อง |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม | |
0900 | นำท่านเข้าชมพระราชวังทอปกาปึ (TOPKAPI PALACE) ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน พร้อมทั้งเข้าชมฮาเร็มเขตหวงห้าม ซึ่งในอดีตกาลใช้เป็นที่อยู่ของนางใน ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่าอาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านฯลฯ | |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคารอาหารจีน | |
บ่าย |
นำท่านชมสนามแข่งม้าโบราณของชาวโรมัน “ฮิปโปโดม” (HIPPODOME) หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต ชมสุหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) โบสถ์เซนต์โซเฟีย (ST. SOPHIA) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบเซนไทม์ หลังจากนั้นนำท่านชมอ่างเก็บน้ำใต้ดิน “เยเรบาตัน” ซึ่งเป็นที่กักเก็บน้ำจืดเอาไว้ใช้ในยามศึกสงคราม จากนั้นนำท่านชมตลาดสไปซ์ มาร์เกต (SPICE MARKET) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย |
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร KEYVANSARAY NIGHT CLUB พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี |
7. วันที่เจ็ด | อิสตันบูล - พระราชวังโดลมาบาชเช่ - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส - กรุงเทพฯ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม | |
จากนั้นนำท่านเข้าชมพระราชวังโดลมาบาชเช่ (DOLMABAHCE PALACE) อันเป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง มีศักยภาพทางการทหารทั้งทัพบกและทัพเรืออันเป็นที่ครั่นครามไปทั่วทุกทวีป ตั้งแต่ตอนเหนือของทวีปอัฟริกา ตอนใต้ของอิตาลี และทางด้านยุโรปตะวันออกจรดกรุงเวียนนา พระราชวังแห่งนี้สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้นรวมทั้งพระราชวังแห่งนี้ ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและ ตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใดๆทั้งสิ้น ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวแล็กๆที่ช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องหับต่างๆและฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียรไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน นาฬิกาทุกเรือนของที่นี่จะชี้เวลา 09.05 น. เป็นนิจนิรันดร์เพื่อระลึกถึงเวลาของการจากไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938 ของ คามาล อาตาเติร์ก (KAMAL ATATURK) วีรบุรุษของชาติผู้บดขยี้กองทัพอังกฤษที่กาลิโปลี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 | ||
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร SEAFOOD RESTAURANT | |
บ่าย | นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง ในปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัสซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาชเช่หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น จากนั้นให้ท่านได้อิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อของฝากในห้างดัง GRAND CAVAHIR SHOPPING MAL | |
1800 | รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารอาหารจีน | |
1930 | นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองอิสตันบูล | |
2340 | ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน TK060 (บินตรง) |
8. วันที่แปด | กรุงเทพฯ |
1345 |
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
ราคาขาย |
ผู้ใหญ่ท่านละ |
62,900.- |
บาท |
เด็ก (อายุ 2-12 ปี) (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน มีเตียง) |
58,900.- |
บาท |
เด็ก (อายุ 2-12 ปี) (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียง) |
55,900.- |
บาท |
เดินทางชั้นธุรกิจเพิ่ม |
56,000.- |
บาท |
พักห้องเดี่ยวเพิ่มท่านละ |
4,000.- |
บาท |
หมายเหตุ |
1. ทางสายการบินขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมและวันเดินทางได้ตามความเหมาะสม |
การชำระเงิน งวดที่ 1 | : สำรองที่นั่งจ่าย 10,000 บาท/ท่าน (non refundable) |
การชำระเงิน งวดที่ 2 | : ชำระส่วนที่เหลือก่อนออกเดินทาง 15 วัน |
ราคาขายรวม |
|
ราคาขายไม่รวม |
|
หมายเหตุ |
1. เงินไทย ที่นำติดตัวไปนอกประเทศต้องมีไม่เกิน 50,000.- บาท |
เอกสารในการขอวีซ่าตุรกี (ใช้เวลายื่น 5 วัน ทำการ) |
• คำขอวีซ่าตุรกี (กรอกเอกสารให้ครบสมบูรณ์) • หนังสือเดินทางมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน • สำเนาหนังสือเดินทาง • รูปถ่ายสีขนาด 1 นิ้วครึ่งหรือ 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป • สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ทั้งเบอร์บ้านและเบอร์มือถือ • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) • ใบรับรองการทำงานของบริษัทที่ทำงานอยู่ (ตัวจริง) กรณีเป็นลูกจ้าง หรือสำเนาทะเบียนการค้ากรณีเป็นเจ้าของกิจการ (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ) • หลักฐานการเงินโดยใช้สำเนาถ่ายจากสมุดเงินฝากส่วนตัวย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมหน้าบัญชีหน้าแรก (หากมีการต่อเล่ม กรุณาสำเนาหน้าแรกของเล่มที่ต่อพร้อมกับตัวเลขบัญชีเงินฝากเป็นปัจจุบัน) • ข้าราชการจะต้องจดหมายรับรองการทำงาน และมีจดหมายลางานจากต้นสังกัด และสำเนาบัตรประจำตัวราชการ 1 ชุด (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ) • เด็กขอหนังสือรับรองจากโรงเรียน (ตัวจริง) หรือกรณีเป็นเด็กเล็กใช้สมุดรายงานประจำตัวนักเรียนหรือสำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ) • เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จะต้องมีใบอนุญาตจากผู้ปกครองบิดาหรือมารดา หากเด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา หรือหากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา หรือถ้าเด็กไม่ได้เดินทางกับบิดาและมารดา จะต้องมีจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศจากทั้งบิดาและมารดา พร้อมมีการรับรองค่าใช้จ่ายให้กับบุตรกับผู้ที่บุตรเดินทางไปด้วย (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ) • ใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล) • ผู้ใหญ่อายุเกิน 70 ปี จะต้องมีใบรับรองแพทย์ พร้อมมีข้อความว่าสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้โดยลำพัง โดยมิต้องมีผู้ดูแล และใบประกันสุขภาพ (จากบริษัทประกันภัย) (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ) |
Regency Travel & Education Co.,Ltd
โทรศัพท์ +66(0) 2261 2500 โทรสาร +66(0) 2261 2484
อีเมล travel@regencytraveledu.com