สหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกา โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ หรือ อเมริกา เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ

ระบบการศึกษา

การศึกษาในสหรัฐอเมริกาแต่ละรัฐจะควบคุมคุณภาพ การเรียนการสอน และวางแผนการศึกษาของตนเอง โดยไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลาง ทุกรัฐจะมีหน่วยงานการศึกษาคล้ายกระทรวงศึกษาธิการ คอยกำหนดมาตรฐานต่างๆ แนะนำเงินงบประมาณอุดหนุนให้โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย จากเงินภาษีที่เก็บได้จากประชาชนในแต่ละรัฐ การศึกษาภาคบังคับ นักเรียนอเมริกันทุกคนจะเรียนฟรีไม่ว่าจะอยู่ที่รัฐใด จนจบชั้นมัธยมศึกษา หรือ Grade 12 สำหรับนักเรียนจากประเทศไทย ที่ต้องการเรียนในระดับประถมและมัธยมศึกษาที่อเมริกา จะสมัครเข้าเรียนได้ในโรงเรียนเอกชนเท่านั้น เพราะสหรัฐอเมริกาจะไม่ออกวีซ่าให้นักเรียนไทยที่ได้ I-20 จากโรงเรียน ระดับประถมและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนของรัฐที่เรียกว่า Public School การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจะมีข้อแตกต่าง กล่าวคือ ถ้านักเรียนที่มีถิ่นฐานในรัฐหนึ่ง จะข้ามมาศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยอีกรัฐหนึ่ง จะต้องเสียค่าเล่าเรียนแพงขึ้น ที่เรียกว่า Out of States Tuition และถ้านักศึกษามาจากประเทศอื่น จะต้องเสียค่าเล่าเรียนมากกว่าขึ้นไปอีก 


โรงเรียนอนุบาล (Kindergarten)
ชีวิตการเรียนของเด็กอเมริกันเริ่มต้นด้วยโรงเรียนเตรียมอนุบาล หรือโรงเรียนอนุบาล ตั้งแต่อายุประมาณ 3 ขวบ 

โรงเรียนประถมศึกษา (Elementary Schools)
เด็กอเมริกันจะเข้าเริ่มเรียนอย่างจริงจังเมื่ออายุ 6 ขวบ บริบูรณ์ คือเข้าเรียนในชั้น Grade 1 ซึ่งบ้านเราก็นับว่าเป็น ประถมศึกษาปีที่ 1 ระบบการศึกษาของประเทศอเมริกา จะจัดแบ่งออกเป็น Grade 1 ถึง Grade 12 ซึ่งโดยหลักการแล้ว จะจัดแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 คือ Grade 1 ถึง Grade 6 หรือระดับประถมศึกษา (Elementary School) 

โรงเรียนมัธยมศึกษา (Junior High Schools / High Schools)
ช่วงที่ 2 คือ Grade 7 และ Grade 8 หรือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Junior High School) และช่วงที่ 3 คือ Grade 9 ถึง Grade 12 เป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior High School) โดยทั่วไปสำหรับเด็กที่เข้าเริ่มเรียนตามปกติ และเรียนต่อเนื่องไปโดยไม่ขาดตอน จะสำเร็จการศึกษา Grade 12 เมื่อ อายุประมาณ 18 ปี ซึ่งนับว่าสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนในระดับนี้ ต้องเรียนวิชาพื้นฐานคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และอาจต้องเรียนภาษาต่างชาติ หรือพลศึกษาด้วย นักศึกษาต่างชาติที่เข้าไปเรียนต่อ ในระดับมัธยมศึกษา ประถมศึกษาในประเทศอเมริกามีจำนวนไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเข้าเรียนกับโรงเรียนประจำของเอกชน หรือ Boarding School แม้ว่าในปัจจุบันโรงเรียนของรัฐบาลจะมีนโยบาย เปิดรับนักศึกษาต่างชาติมากขึ้น แต่นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่ ก็ยังคงสมัครเข้าเรียนกับโรงเรียนประจำ เนื่องจากโรงเรียนรัฐบาลส่วนใหญ่ไม่สามารถจัดหาหอพักให้ได้ โดยทั่วไปนักเรียน ไทยส่วนใหญ่ที่ไปเรียนต่อในระดับนี้มักสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว และไปเข้าเรียนต่อ Grade 10 ใน ประเทศอเมริกา 

ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
สถาบันระดับอุดมศึกษาในสหรัฐอเมริกามีมากมายกว่า 3,000 แห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน โดยสถาบันในระดับอุดมศึกษา จะแยกออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 

  1. วิทยาลัยแบบ 2 ปี หรือวิทยาลัยชุมชน (Junior Colleges และ Community Colleges) นักศึกษาที่เรียนใน วิทยาลัย Junior และ Community Colleges สามารถ เลือกเรียนได้ใน 2 หลักสูตร คือ 
    1. Transfer Track เป็นหลักสูตรที่เป็นวิชาพื้นฐาน 2 ปี แรกของการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยนักศึกษาจะลงเรียนรายวิชาบังคับ (General Education Requirements) เป็นเวลา 2 ปี จากนั้น นักศึกษาสามารถโอนหน่วยกิต (Transfer) ไปมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน เพื่อศึกษาต่อในระดับปี 3 โดยที่เกรดเฉลี่ยที่นักศึกษาทำได้ในระหว่าง 2 ปีนี้ จะเป็นตัวกำหนดว่า นักศึกษาจะได้รับการตอบรับเข้ามหาวิทยาลัย ที่อยู่ในอันดับยากง่ายเพียงใด
    2. Terminal/Vocational Track เป็นหลักสูตรอนุปริญญาสายวิชาชีพ หลังจาก 2 ปีแล้ว นักศึกษาจะได้รับวุฒิอนุปริญญา (Associate Degree) ทางสาขาวิชาที่เลือก อาทิเช่น คอมพิวเตอร์ เลขานุการ เขียนแบบ เป็นต้น
       
  2. วิทยาลัย (Colleges) เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษา หลักสูตร 4 ปี เปิดสอนในสาขาวิชาต่างๆ วิทยาลัยหลายแห่ง เปิดสอนถึงระดับปริญญาโท วุฒิบัตรระดับปริญญาตรีและโทจาก College ทั้งของรัฐและเอกชนในสหรัฐฯ มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่า University ทุกประการ 
  3. มหาวิทยาลัย (University) เป็นสถาบันระดับอุดม ศึกษาที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีขึ้นไป มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ จะเปิดสอนจนถึงระดับปริญญาโทและเอกในสาขาต่างๆ 


สถาบันเทคโนโลยี (Institute of Technology) เป็นสถาบันที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี และอาจเปิดสอนจนถึงระดับปริญญาโทและเอก สถาบันเทคโนโลยีส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นที่การสอนในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 


เงื่อนไขการรับเข้าเรียน 

  • มัธยมศึกษา นักเรียนจากประเทศไทยสามารถศึกษาต่อในระดับมัธยมในโรงเรียนของเอกชนเท่านั้น ไม่สามารถเข้าเรียนในสถาบันของรัฐบาลได้ เงื่อนไขอื่นๆ เช่นเกรดเฉลี่ยและคะแนน TOEFL แตกต่างออกไปตามสถาบัน 
  • วิทยาลัย วิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.0 ขึ้นไป และคะแนน TOEFL paper 450-500 ขึ้นไป / internet 45-61 ขึ้นไป
  • มหาวิทยาลัย สำหรับปริญญาตรี สถาบันส่วนใหญ่ต้องการนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.5 ขึ้นไป และ TOEFL paper 500 ขึ้นไป/ internet 61 ขึ้นไป
  • ปริญญาโทและเอก เกรดเฉลี่ย 3.0 ขึ้นไป และคะแนน TOEFL ไม่ต่ำกว่า paper 500/ internet 61 ขึ้นไป นักศึกษาที่จะสมัครในโปรแกรม MBA ส่วนใหญ่จะต้องใช้คะแนน GMAT ซึ่งจะนำมาคำนวณกับเกรดเฉลี่ยปริญญาตรี ส่วนนักศึกษาที่สมัครปริญญาโทและเอกในสาขาอื่นๆ ส่วนใหญ่จะต้องสอบ GRE (Graduate Record Examination) 


ปีการศึกษา
ปีการศึกษาในสหรัฐอเมริกา (Academic Year) จะเริ่ม ประมาณเดือนกันยายนถึงพฤษภาคม ซึ่งมีกำหนดภาคเรียน แตกต่างกันออกไปดังนี้ 

ระบบ Semester 
เป็นระบบที่นิยมใช้มากที่สุด ในระยะเวลาหนึ่งปีจะประกอบด้วย 2 Semesters และ 1-2 Summer Sessions แต่ละ Semester ยาวประมาณ 16 สัปดาห์ ดังนี้ 

  • Fall Semester เปิดประมาณปลายสิงหาคม - กลางธันวาคม 
  • Spring Semester เปิดประมาณต้นมกราคม - เมษายน (บางครั้ง Summer Session จะแบ่งครึ่งเป็น 2 ช่วงสั้น ๆ) 
  • Summer Session เปิดประมาณกลางพฤษภาคม - สิงหาคม 


ระบบ Quarter 
ในหนึ่งปีแบ่งออกเป็น 4 Quarter แต่ละ Quarter ใช้เวลาเรียนประมาณ 10 สัปดาห์ ดังนี้ 

  • Fall Quarter เปิดประมาณกลางกันยายน - ธันวาคม 
  • Winter Quarter เปิดประมาณมกราคม - กลางมีนาคม 
  • Spring Quarter เปิดประมาณต้นเมษายน - กลางมิถุนายน 
  • Summer Quarter เปิดประมาณกลางมิถุนายน- สิงหาคม 


ระบบ Trimester 
ใน 1 ปี แบ่งภาคการศึกษาดังนี้ 

  • First Trimester เปิดประมาณกันยายน - ธันวาคม 
  • Second Trimester เปิดประมาณมกราคม - เมษายน 
  • Third Trimester เปิดประมาณพฤษภาคม - สิงหาคม 


ระบบ 4-1-4 
เป็นระบบใหม่ที่ใช้ในสถานศึกษาราว 8% ในสหรัฐอเมริกาแบ่งปีการศึกษาออกเป็น 2 ภาคใหญ่ คั่นด้วยภาคเรียนสั้นๆ ที่เรียกว่า Interim เพื่อให้นักศึกษาไปทำการค้นคว้าด้วยตนเองหรือออก Field Trip แบ่งภาคเรียน ดังนี้ 

  • Fall Semester เปิดประมาณปลายสิงหาคม - ธันวาคม 
  • Interim เปิดประมาณเดือนมกราคม (1 เดือน) 
  • Spring Semester เปิดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม

 

ดาวน์โหลด